บัดนี้ แพทยสมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้มีสถานที่ของตนเองอย่างถาวรแล้ว นับว่าเป็นผลบุญของชาวแพทย์ทั้งหลายที่ได้ช่วยกันสั่งสมไว้ในอดีต เรื่องนี้ควรเป็นเครื่องเตือนใจให้แพทย์ในปัจจุบันและอนาคตได้สำนึก จดจำและปฏิบัติแต่ในสิ่งที่ดีงามจงเสมอไป และขอให้สามัคคีช่วยเหลือซึ่งกันและกันเพื่อยังความเจริญ ให้เกิดแก่มนุษยชาติและประเทศชาติสืบไป
ก่อนที่จะย้ายมาอยู่บ้านถาวร ท่านนายกและกรรมการผู้เกี่ยวข้องทั้งหลาย ได้ช่วยกันทำงานอย่างเสียสละจนบรรลุถึงผลสำเร็จในขั้นสุดท้าย เริ่มด้วยการเจรจากับสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ การจัดสรรปันส่วนค่าชดใช้ในระหว่างสี่สมาคม การย้ายสำนักงานจากบ้านศาลาแดงไปอาศัยสถานที่ของสมาคมปราบวัณโรค ฯ ในระหว่างที่มีการซื้อที่ดินและการก่อสร้าง ตลอดจนการย้ายเข้าสู่สถานที่ถาวรที่ซอยศูนย์วิจัย ในวันเสาร์ที่ 13 มกราคม 2511
นับว่าเป็นศิริมงคลเป็นอย่างยิ่ง และเป็นที่ปลาบปลื้มยินดีแก่แพทย์ทั้งปวง ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระราชินีนาถได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เสด็จมาทรงเปิดอาคารของแพทยสมาคมฯ ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2511 นั้น เป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างสูงแก่แพทยสมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์
แพทยสมาคมฯ ได้ดำเนินกิจการมาด้วยดีนับแต่เริ่มต้นเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2464 บัดนี้จะครบ 60 ปี ในวันที่ 25 ตุลาคม 2524 คุณประโยชน์ที่แพทยสมาคมฯได้ทำไว้แก่ประเทศชาติ แก่ประชาชน และแก่บรรดาแพทย์ด้วยกันมีอยู่เป็นเอนกประการ เป็นต้นว่า เริ่มตั้งสมาคมปราบวัณโรค สมาคมโรคเบาหวาน ทุนวิจัย ทุนการศึกษาแก่แพทย์เผยแพร่ความรู้แก่ประชาชนในด้านสุขภาพอนามัย ฯลฯ ในรอบ 60 ปี อันเป็นเวลาอันยาวนานนี้ แม้แพทยสมาคมจะได้ทำคุณงามความดีไว้เป็นอันมากก็ดี ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นก็ย่อมมีเป็นธรรมดา ข้อสำคัญมีอยู่ว่าเมื่อทำอะไรผิดลงไปแล้ว ควรรีบแก้ไขและป้องกันมิให้ความผิดเช่นนั้นเกิดขึ้นอีก
ผู้เขียนขอจบเพียงเท่านี้ และขอวิงวอนท่านสมาชิกทั้งหลาย ช่วยกันคิด ช่วยกันทำ ช่วยกันแก้ไขสิ่งที่ผิดมาแล้ว ให้ถูก ให้ดีขึ้นจะเป็นที่เชื่อถือ เป็นที่พึ่งพึงของสมาชิกและเป็นที่รักและสามัคคีกันในระหว่างสมาชิก
|