BLOG
: :
หน้าหลัก
: :
ประวัติสมาคม
: :
คณะกรรมการ
: :
กระดานข่าวสาร
: :
กิจกรรม
: :
สมัครสมาชิก
: :
Full Text Journal
: :
ถาม - ตอบ
: :
ติดต่อ
: :
Link

 

 


การฟ้องแพทย์ โดย พญ.พรทิพย์ โรจนสุนันท์



การฟ้องแพทย์ 
โดย พญ.พรทิพย์ โรจนสุนันท์ 

ในปัจจุบันปัญหาเรื่องแพทย์ถูกฟ้องได้เกิดมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งในโรงพยาบาลของเอกชนและของรัฐบาลบางครั้งเกิดจากความเข้าใจผิด แต่บางครั้งเกิดจากความผิดพลาดจริง ๆ ซึ่งคงไม่มีใครอยากให้มีการฟ้องร้องเกิดขึ้นแน่นอน ดังนั้นแพทย์จึงควรศึกษาเรื่องโอกาสเสี่ยงที่อาจจะโดนฟ้องร้อง เพื่อเป็นการฟ้องร้องเกิดขึ้นแน่นอน ดังนั้นแพทย์จึงควรศึกษาเรื่องโอกาสเสี่ยงที่อาจจะโดนฟ้องร้อง เพื่อเป็นการป้องกันตัวเองไว้ด้วย แต่เดิมมานั้นอาชีพแพทย์เราจัดอยู่ในอาชีพที่มีเกียรติซึ่งภาษาอังกฤษเรียก “Profession” ภาษาไทยที่ถูกต้องคือ “วิชาชีพ” ซึ่งหมายความว่าเป็นอาชีพที่ต้องใช้คุณธรรมและจริยธรรมในการประกอบวิชาชีพ วิชาชีพที่สำคัญคือ ผู้พิพากษา แพทย์และนักบวช ส่วนสาขาอื่น ๆ จัดเป็นอาชีพ Occupation ซึ่งไม่จำเป็นต้องมีข้อกำหนดให้ยึดถือจริยธรรมและคุณธรรมในการปฏิบัติงานอาช ีพแพทย์จึงไม่สามารถเรียกร้องค่าจ้างเป็นค่าตอบแทนในการรักษาพยาบาลในลักษณะ ของค่าจ้าง (Wage) ได้คงคิดได้เพียงค่าธรรมเนียม (Fee) หากคนใข้ไม่มีเงินในการรักษาพยาบาลแพทย์ก็ต้องมีจรรยาบรรณในการรักษาช่วยชีว ิต แม้ไม่ได้เงิน อีกทั้งรัฐธรรมนูญก็ได้กำหนดไว้ชัดเจนว่าประชาชนทุกคนมีสิทธิ์ได้รับการบริก ารพื้นฐานจากรัฐ ซึ่งหมายรวมถึงการรักษาพยาบาลด้วย 

แต่ในปัจจุบันวิชาชีพแพทย์ถูกดึงเข้าสู่ระบบธุรกิจมากขึ้น โรงพยาบาลเอกชนเปิดดำเนินการในเชิงธุรกิจ มีจุดมุ่งหมายคือมีผลกำไร จึงทำให้ผูกพันหรือความสัมพันธ์ระหว่างแพทย์กับผู้ป่วยเปลี่ยนแปลงไปเป็นเชิ งธุรกิจ โดยมีการนำโรงพยาบาลเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ซึ่งในต่างประเทศไม่เคยมี การนำโรงพยาบาลเข้าตลาดหลักทรัพย์เลย ทั้งนี้เพราะข้อกำหนดของบริษัทที่จะจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้ จะต้องมีผลกำไรอยู่ในเกณฑ์ดี จึงจะผ่านการรับรอง การดำเนินการของโรงพยาบาลจึงมุ่งเน้นที่การทำกำไร มีการให้ผลประโยชน์ตอบแทนแพทย์ การมาตรวจเยี่ยมผู้ป่วยแต่ละครั้งล้วนมีการคิดค่าแพทย์ทุกอย่างล้วนเป็นเงิน เป็นทอง ดังนั้นเมื่อแพทย์ไม่สามารถรักษาคนไข้ให้หายหรือบรรลุเป้าหมายของการตกลงในเ บื้องต้นหรือผู้ป่วยไม่พึงพอใจในผลการรักษาคนไข้ให้หายหรือบรรลุเป้าหมายของ การตกลงในเบื้องต้นหรือผู้ป่วยไม่พึงพอใจในผลการรักษาเมื่อได้จ่ายเงินเป็นจ ำนวนมากแล้วก็ตาม และหากมีความเสียหายที่เกิดจากการรักษาพยาบาลด้วยแล้ว ผู้ป่วยจะหันกลับมาฟ้องแพทย์ทันที โดยจะดูได้จากสถิติการฟ้องร้องแพทย์ต่อศาล และการร้องเรียนต่อแพทยสภามีมากขึ้นเรื่อย ๆ วงเงินก็สูงขึ้นเรื่อย ๆ แนวโน้มเช่นนี้ชี้ให้เห็นถึงความศรัทธาในการทำงานของแพทย์ลดลง ความเห็นอกเห็นใจก็ลดน้อยลง ความผิดพลาดแม้เพียงเล็กน้อยผู้ป่วยก็นำมาร้องเรียน การเตรียมพร้อมต่อปัญหาการฟ้องร้อง จึงเป็นสิ่งที่แพทย์ทุกคนควรตระหนักเป็นอย่างยิ่ง 

หากศึกษาวิเคราะห์เรื่องการฟ้องร้อง จะพบว่าการฟ้องร้องส่วนใหญ่เริ่มมีมากขึ้น เมื่อมีการพัฒนาเทคนิค เครื่องมือในการตรวจวินิจฉัยและรักษาทางการแพทย์มากขึ้นเรื่อย ๆ (New development) ดูตัวอย่างได้จากสูติแพทย์ถูกคาดหวังจากคนไข้ที่มาฝากท้องว่าจะสามารถตรวจพบ ความพิการ ความผิดปกติด้วยเทคโนโลยีต่าง ๆ มากมาย แพทย์เองก็นำเครื่องมือมาใช้โดยบางครั้งอาจจะยังมีประสบการณ์ไม่เพียงพอ เมื่อเกิดความผิดพลาดในการวินิจฉัยคนไข้จึงทำการร้องเรียน นอกจากนี้การฟ้องจะมีการดูตามแนวโน้มของคดีที่มีการฟ้องร้องที่ประสบความสำเ ร็จ (recent trends) ในประเทศไทยสูติแพทย์ถูกฟ้องเป็นอันดับหนึ่ง คดีที่มีการเรียกร้องค่าเสียหายสูงที่สุดในขณะนี้คือ คดีที่เกี่ยวกับสูติแพทย์ และวิสัญญีแพทย์ นอกจากนี้ในประเทศไทยหมอเด็กก็ถูกร้องเรียนมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งเมื่อวิเคราะห์ดูจุดที่เป็นปัญหาที่จะกระตุ้นให้เกิดการฟ้องร้องจะมีหลา ยจุดด้วยกัน ในส่วนแรกคือ เมื่อผลการรักษาไม่ได้ดังที่ผู้ป่วยคาดหวัง (unexpected result) ผู้ป่วยไม่พอใจในการดูแลเอาใจใส่หรือการรักษาของแพทย์และเจ้าหน้าที่ 
เช่น ผู้ป่วยเป็นคนไข้ประจำของโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง มีอาการปวดท้องไปพบแพทย์ตรวจหลายครั้งก็ไม่ดีขึ้น เมื่อเปลี่ยนไปหาแพทย์โรงพยาบาลอื่นจึงตรวจพบว่าไส้ติ่งอักเสบแตกแล้ว ผู้ป่วยจึงย้อนกลับไปฟ้องร้องแพทย์ของโรงพยาบาลแห่งแรกที่เคยรักษาเป็นประจำ ในส่วนที่ 2 คือ การเกิดภาวะแทรกซ้อนจนผู้ป่วยเสียชีวิต หรือไม่สามารถกลับไปทำงานได้เหมือนเดิมหรือสูญเสียอวัยวะบางส่วน (seriousness of injury) ซึ่งปัญหาในส่วนนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้งมากอันมีปัจจัยมากจากการวินิจฉัย หรือการรักษาพยาบาลที่ผิดพลาดหรือช้าเกินไป ทั้งนี้เพราะแพทย์เราเน้นความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านมากเกินไป ไม่ดูแลผู้ป่วยในลักษณะองค์รวม (Holistic approach) ส่วนที่ 3 คือปัญหาในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างแพทย์กับผู้ป่วยเปลี่ยนไป (weak doctor-patient relationship) ผู้ป่วยคาดหวังว่าแพทย์จะอธิบาย ชี้แจงเรื่องความเจ็บป่วยให้ทราบ แต่แพทย์ส่วนใหญ่ในปัจจุบันมักจะมาดูคนไข้แล้วก็ไป และในโรงพยาบาลเอกชนการมาดูผู้ป่วยแต่ละครั้งจะมีการคิดค่าตรวจเสมอ ความสัมพันธ์ระหว่างแพทย์กับผู้ป่วยจึงเปลี่ยนเป็นเชิงธุรกิจเกือบทั้งหมด เมื่อมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นก็อาจมีการดำเนินทางกฎหมายทันที โดยไม่เกรงใจ ปัญหาในส่วนที่ 4 คือ ปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย ค่าตรวจหรือค่ารักษา (uncertain financial future) ที่สูงไม่แน่นอน ผู้ป่วยอาจรู้สึกว่าทางโรงพยาบาลไม่ได้ทำอะไรเท่าไรแต่บิลค่ารักษากลับสูงเก ินความเป็นจริง โรงพยาบาลบางแห่งทำการเจาะเลือด ตรวจทางห้องปฏิบัติการมากมายเกินความจำเป็น ซึ่งทำให้คนไข้ต้องจ่ายเงินมากเกินความจำเป็น และปัญหาในส่วนสุดท้ายคือมีการกระตุ้นหรือการสนับสนุนให้ฟ้องร้องแพทย์โดยญา ติของผู้ป่วยหรือ แพทย์ด้วยกัน (support group) คดีฟ้องร้องแพทย์ในเมืองไทย ส่วนใหญ่มักเกิดจากการให้ความเห็นในลักษณะทับถมของแพทย์อีกคนเช่น การที่แพทย์พูดว่าแพทย์ไม่น่าทำการรักษาแบบนั้นแบบนี้เลย หากมาพบแพทย์ก่อนหน้านั้นคงไม่ต้องเป็นอย่างนี้ ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาการฟ้องร้องตามมา


ลักษณะการฟ้องร้องที่แพทย์อาจโดนคนไข้ฟ้องร้องมี 2 ลักษณะ คือ: 

ความผิดอาญา ซึ่งแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ 
1.1 ความผิดอาญาทั่วไป ซึ่งประกอบด้วยความผิดหลัก ๆ คือ 

ความผิดเกี่ยวกับความยินยอมของผู้ป่วยคือ แพทย์กระทำการรักษาใด ๆ ควรได้รับการยินยอมที่ถูกต้องก่อน ยกเว้นกรณีเร่งด่วนเพื่อช่วยชีวิต มิเช่นนั้นอาจมีความผิดฐานทำร้ายร่างกาย หรือมีความผิดฐานทำให้เสื่อมเสียเสรีภาพ หรือที่ร้ายแรงที่สุดคือ ความผิดฐานฆ่าผู้อื่น ในเรื่องความยินยอมนี้ ทางแพทยสภาได้กำหนดแนวปฏิบัติในเรื่องสิทธิผู้ป่วย โดยคนไข้มีสิทธิที่จะรับรู้การดำเนินการ หรือการรักษาใด ๆ ที่เกี่ยวกับตัวเอง แพทย์จึงมีหน้าที่ชี้แจง และขอความยินยอมให้ทำการรักษาพยาบาล บ่อยครั้งที่คนไข้ฟังแพทย์อธิบายไม่รู้เรื่อง โดยที่แพทย์ก็อาจไม่ทราบ บางครั้งแพทย์อาจดำเนินการรักษาไปโดยไม่ได้ขอความยินยอม เช่นการผ่าตัดเอาไส้ติ่งออกในการผ่าท้องคลอดลูกแล้วมีการคิดค่ารักษาเพิ่มเต ิม 
ความผิดอาญาจากการกระทำโดยประมาท ซึ่งเป็นความผิดโดยตรวจจากการรักษาพยาบาลผิดพลาด 
ความผิดที่เกี่ยวกับการงดเว้นการกระทำ เช่น แพทย์ต้องอยู่เวรแต่กลับไปทำคลีนิค ทำให้คนไข้ไม่ได้รับการช่วยเหลือทันการณ์ 
1.2 ความผิดอาญาที่เกี่ยวกับการกระทำของแพทย์หรือบุคคลากรด้านสุขภาพมีความผิดหล ักๆ คือ 

ความผิดฐานให้คำรับรองเท็จ ในปัจจุบันแพทย์ถูกผลักภาระให้ต้องออกใบรับรองแพทย์มากเกินความจำเป็น เช่นการตรวจร่างกายเพื่อสมัครงาน หรือนักเรียนหยุดเรียนเพราะไม่สบายหนึ่งถึงสองวัน ซึ่งไม่จำเป็นต้องพบแพทย์ ในบางครั้งแพทย์ก็ร่วมมือในการออกใบรับรองเท็จ เช่นการรับรองทนายความ หรือผู้ต้องหาที่ไม่ไปศาล 
ความผิดฐานทอดทิ้งเด็ก ผู้ป่วยหรือคนชรา 
ความผิดฐานเปิดเผยความลับ ซึ่งในสิทธิผู้ป่วยก็ได้มีการกำหนดข้อพึงปฏิบัติในเรื่องนี้ไว้ด้วย การเปิดเผยข้อมูลของผู้ป่วย เช่นการตีพิมพ์ หรือการมอบเวชระเบียนให้กับผู้ใดต้องตรวจสอบก่อนว่า ผู้ป่วยได้อนุญาตหรือยัง ข้อยกเว้นมีกรณีเดียวคือ เมื่อทางศาลขอมา ปัญหาในทางปฏิบัติส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับบริษัทประกันเป็นการอนุญาตที่ถูกต ้องหรือไม่ ในกรณีของบริษัทประกันนี้แพทย์ควรมีการตรวจสอบการยินยอมจากผู้ป่วยอีกครั้งใ นกรณีดังต่อไปนี้ คือคนไข้เป็นมะเร็ง โรคเอดส์ หรือโรคจิต 
ความผิดฐานไม่ช่วยผู้อื่นที่อยู่ในอันตราย 
ความผิดฐานทำให้แท้งลูก ในปัจจุบันมีการตรวจจับคลีนิคทำแท้งเถื่อนเป็นจำนวนมาก ซึ่งกฎหมายอนุญาตให้มีการทำแท้งได้เพียงสองกรณีคือ เพื่อสุขภาพของมารดา และเมื่อถูกข่มขืนกระทำชำเรามา 
ในอดีตแพทย์ยังไม่เคยถูกฟ้องอาญาเท่าไร แต่ในปัจจุบันมีการฟ้องแพทย์ในคดีอาญามากขึ้น ซึ่งกำหนดบทลงโทษต่อผู้ที่กระทำผิดโดยตรง บทลงโทษมีตั้งแต่ปรับไปจนถึงโทษหนักที่สุดคือ ประหารชีวิต 

ความผิดทางกฎหมายแพ่ง ลักษณะประเด็นที่เกี่ยวข้องระหว่างผู้ป่วยกับแพทย์หรือบุคคลากรในคดีแพ่งมีอ ยู่ 2 ลักษณะใหญ่ คือ 
2.1 ความผิดสัญญา ซึ่งมักเกิดจากแพทย์ไปสัญญากับผู้ป่วยว่าจะทำการรักษาอย่างนั้นอย่างนี้ จะได้ผลต่าง ๆ ซึ่งเมื่อไม่ได้ผลดังที่ตกลงสัญญาไว้ ผู้ป่วยมักจะดำเนินการฟ้องร้อง โดยส่วนใหญ่มักพบว่าผู้ป่วยร้องเรียนเกี่ยวกับการผ่าตัดทำศัลยกรรมตกแต่งมาก ที่สุด ซึ่งแพทย์มักสัญญาว่าจะทำการผ่าตัดแล้วจะสวย หรือไม่ก็ให้คำมั่นสัญญาว่าหากผ่าตัดและไม่พอใจก็จะทำการผ่าตัดแก้ไขให้อีกส าขาที่แพทย์มักเกี่ยวข้องกับผู้ป่วยในลักษณะการให้สัญญา ซึ่งกำลังเริ่มมีปัญหามากขึ้นคือ การแก้ปัญหาผู้มีบุตรยาก หรือการเลือกเพศของบุตร ทั้งนี้เพราะการดำเนินการในแต่ละครั้งต้องใช้ค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมาก อีกทั้งไม่สามารถคาดหวังว่าจะได้ผลกี่เปอร์เซ็นต์ 

2.2 ความผิดจากการกระทำละเมิดโดยตรงคือ กรณีที่แพทย์ดำเนินการรักษาผิดพลาดทำให้เกิดความเสียหาย ทุพพลภาพ หรือเสียชีวิต ซึ่งความรับผิดชอบจากการละเมิดมีขอบเขตกว้างขวาง คือผู้กระทำละเมิดโดยตรงรับผิดชอบส่วนแรก ผู้อื่นที่มีหน้าที่เช่น หากแพทย์เวรทำผิดพลาดเกิดความเสียหายขึ้น นอกจากแพทย์เวรที่รับผิดชอบจะเป็นการร่วมชดเชยค่าเสียหาย ซึ่งเรียกรวมว่าค่าสินไหมทดแทน ในกรณีการรักษาพยาบาลค่าสินไหมทดแทน ได้แก่ ค่ารักษาพยาบาล ค่าเสียหายที่ต้องขาดประโยชน์ ค่าปลงศพ ค่าใช้จ่าย ค่าเสียหายในการเสียความสามารถประกอบการงาน ค่าขาดอุปการะ ซึ่งในคดีแพ่งที่มีการฟ้องร้องแพทย์ที่มีการฟ้องอยู่ในขณะนี้มีมูลค่าสูงถึง หกร้อยกว่าล้านบาท 


จากความผิดที่แพทย์อาจโดนฟ้องร้องดังกล่าวข้างต้นจะเห็นได้ว่า หากแพทย์โดนฟ้องร้องคดีอาญา จะต้องเป็นแพทย์ที่มีส่วนในการกระทำผิดโดยตรง บทลงโทษมีตั้งแต่ปรับ จำคุก ถึงประหารชีวิต แต่ถ้าโดนฟ้องคดีแพ่งแพทย์ที่จะต้องร่วมรับผิดชอบมีมากกว่าผู้กระทำโดยตรง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหัวหน้างานตามลำดับ รวมถึงเจ้าของสถานพยาบาล ซึ่งบทลงโทษคือ การจ่ายเงินชดเชยความเสียหาย ดังนั้นหากแพทย์จะป้องกันไม่ให้ถูกฟ้องร้องก็คงต้องสำรวจดู การทำงานของตัวแพทย์เอง และขององค์กรเพื่อดูว่าโอกาสเสี่ยง (High risk) อยู่ที่ไหนได้บ้างและหามาตรการดำเนินการป้องกัน การดำเนินการในลักษณะนี้เรียกว่า Risk Identification ซึ่งมีตั้งแต่การสำรวจโดยตัวเราเอง (Individual) ระดับภาควิชา หรือหน่วยงานย่อย (Internal Identification) ระดับโรงพยาบาล หรือหน่วยงานใหญ่ (External Identification) ในปัจจุบันองค์กรระดับใหญ่คือ โรงพยาบาลควรจะจัดให้มีการดำเนินการเรื่อง High risk โดยมีทีมงานที่สามารถรับรู้และแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว ขณะเดียวกันก็ต้องกระตุ้นให้บุคคลากรที่เกี่ยวข้องมีความรู้ และตระหนักในเรื่องดังกล่าวด้วย สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การป้องกันสำหรับตัวเอง วิธีที่ดีที่สุดคือ การรักษาผู้ป่วยด้วยความยึดมั่นในจรรยาบรรณ คุณธรรม จริยธรรมที่ดีของวิชาแพทย์ อย่าคำนึงถึงประโยชน์ตามกระแสสังคมจนหากมีความผิดพลาดเกิดขึ้น ก็อาจโดนฟ้องร้องเข้าสักครั้งหนึ่ง อีกประการที่แพทย์อาจใช้เป็นพยานยืนยันว่า ท่านได้ทำถูกขั้นตอนก็คือ การบันทึกใน medical record ซึ่งปัจจุบันแพทย์มักละเลยที่จะบันทึกข้อมูลการรักษาการดำเนินโรคให้ดีรอบคอ บ โดยอ้างว่าไม่มีเวลา อาจจะทำให้แพทย์ต้องเสียใจในภายหลังหากโดนฟ้องแล้วไม่สามารถหาพยานยืนยันสิ่ งที่เราได้ทำไว้แล้ว ปัญหาในการบันทึกในเวชระเบียนของแพทย์มีมาก ซึ่งในขณะนี้แพทยสภาได้ร่างระเบียบกำหนดมาตรฐานในการบันทึกเวชระเบียนแยกตาม ประเภทคนไข้ โดยมีข้อกำหนดเรื่องมาตรฐานการบันทึก รวมถึงการกำหนดระยะเวลาในการบันทึกเพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติของแพทย์ 

แม้ว่าการฟ้องร้องจะเริ่มมีมากขึ้นเรื่อย แต่สังคมไทยยังไม่ได้เปลี่ยนแปลงเหมือนสังคมตะวันตกเสียทีเดียวนัก คนไทยยังมีความเอื้ออาทรซึ่งกันและกัน ความสัมพันธ์ระหว่างแพทย์กับผู้ป่วยยังไม่อยู่ในภาวะวิกฤตเสียทีเดียว และหากเรายึดมั่นในคติธรรมของมหาวิทยาลัยมหิดล ที่ว่า อัตตาน๐ อุปมัง กะเร พึงเอาใจเขามาใส่ใจเราในการทำงาน การเข้าใจการยอมรับในความรู้สึกของผู้ป่วย จะทำให้สัมพันธภาพระหว่างแพทย์กับผู้ป่วยดีขึ้น ซึ่งจะเป็นการลดการฟ้องร้องแพทย์ไม่ให้มีมากขึ้น การทำประกันวิชาชีพจะไม่ช่วยป้องกันการฟ้องร้อง แต่กลับเป็นการกระตุ้นให้เกิดวงจรปัญหาตามมาอีกมากมาย เพราะเมื่อแพทย์ต้องจ่ายเงินประกัน ก็จะย้อนมาเรียกค่ารักษาพยาบาลเพิ่มขึ้น ผลสุดท้ายภาระก็จะตกกับผู้ป่วย ระบบแพทย์ก็จะกลายเป็นเหมือนในสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีการฟ้องร้องมาก แพทย์ต้องทำประกันความเสี่ยงเป็นวงเงินสูง วิชาชีพแพทย์โดยแท้จริงแล้วคือการช่วยเหลือผู้อื่นที่เจ็บป่วยด้วยโรคภัยไข้ เจ็บ ซึ่งเป็นภาระงานที่หนัก โดยไม่อาจคาดหวังว่าจะได้ค่าตอบแทน แต่สังคมเปลี่ยนไปมีลักษณะเป็น moneyoriented แพทย์ก็เริ่มจะมี money conscious มากไป โดยคาดหวังว่าจะได้ค่าตอบแทนสูงในการรักษาพยาบาล ภาพพจน์แห่งการเสียสละ ความเป็นวิชาชีพที่น่านับถือ จึงค่อย ๆ หายไป การรักษาพยาบาลจึงกลายเป็นเหมือนการซื้อขายบริการอย่างหนึ่ง ปัจจุบันคดีต่าง ๆ ที่เริ่มมีมากขึ้นคงมีส่วนให้แพทย์เราย้อนกลับมากศึกษาปัญหาและหาทางป้องกัน เพื่อไม่ให้มีโอกาสเกิดขึ้นกับตัวเองและที่สำคัญที่สุด คือการรักษามาตรฐานวิชาชีพและองค์กรของเราไว้ ดังภาษิตภาอังกฤษบทหนึ่งดังนี้ 


We are doctors. 
We are the professionals. 
We must up-hold standards of practice and very professional and ethical 
in the carrying out of our duties and responsibilities. 
We will be better respected if we remain so. 

 

 

© Copy right The Medical Association of Thailand. All rights Reserved 2002 - 2003
Acquista Cialis generico 5 mg Effetti collaterali del Cialis 5 mg Acquista Cialis 20mg online Prezzo di Cialis originale in Svizzera Acquista Viagra in Svizzera senza prescrizione Dove comprare Cialis 10mg Viagra in farmacia online effetti collaterali Costo di Cialis 5mg Opiniones de Reduslim Acquista Spedra Avanafil senza prescrizione Acquista Viagra in Svizzera senza prescrizione Comprar Cialis original Comprar Viagra Contrareembolso Cialis 5mg Viagra sin receta Cialis 5 mg efectos secundarios graves Reduslim precio Trastorno de la ereccin venta de tadalafilo avanafil prezzo cialis 20 mg prezzo cialis effetti benefici cialis 10 mg Reduslim Kaufen pulse crypto price prediction avanafil 100 mg prezzo buy cialis or generic tadalafil